คำศัพท์ Search Marketing รู้แบบเข้าใจ คุณจะก้าวไปได้ไกลกว่าที่คิด
คำศัพท์ Search Marketing
Algorithm
Algorithm คือระบบเบื้องหลังการทำงานของ Google ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และประมวลผลคุณภาพของเว็บไซต์ ก่อนนำมาจัดอันดับและแสดงผลเมื่อมีผู้ใช้งานเสิร์ชหาผ่านคีย์เวิร์ด (Keywords) ต่าง ๆ
การรู้และเข้าใจระบบการทำงานของ Google Algorithm จะช่วยให้เราปรับแต่ง (Optimize) เว็บไซต์ของเราให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
และยิ่งเราสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ของเราได้ตาม Algorithm ได้มากเท่าไร เว็บไซต์ของเรามีโอกาสจะติดอันดับ Top Rank ได้มากเท่านั้น
ALT TEXT
Alt Text ย่อมาจาก Alternative Text หรือบางครั้งเรียกว่า "alt attributes" และ “alt descriptions" คือคำบรรยายรูปภาพ ซึ่งแทรกอยู่ใน HTM Code ของเว็บไซต์
เหตุผลสำคัญที่ต้องใส่ Alt Text กำกับรูปภาพก็เพื่อเป็นการสื่อสารกับ Google เนื่องจากในปัจจุบัน AI ของ Google ยังไม่สามารถเข้าใจความหมายของรูปภาพได้ ดังนั้นจึงต้องมี Code หรือตัวหนังสือเพื่ออธิบายความหมายของรูปให้ Google เข้าใจ
ด้วยเหตุนี้ การใส่ Alt Text จึงมีผลต่อคะแนน SEO ค่อนข้างมาก
Back Link
Backlink คือการสร้างลิงก์จากเว็บไซต์อื่นแล้วชี้กลับมายังเว็บไซต์ของเรา Backlink ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การทำ Off-Page SEO ที่สำคัญมากๆ
จำนวนและคุณภาพของ Backlink เป็นสิ่งที่แสดงถึงความน่าเชื่อถือ (Domain Authority - DA) ของเว็บไซต์ ยิ่งเว็บไซต์ของเราได้รับความน่าเชื่อถือจากเว็บอื่น ๆ (ควรเป็นเว็บที่เนื้อหาเกี่ยวกับเว็บของเราด้วย) มากเท่าไร ยิ่งเป็นการส่งสัญญาณบวกไปให้ Google รับรู้มากเท่านั้น
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ SEO Scores จะเพิ่มขึ้น
External Link
หรือเรียกอีกอย่างว่า Outbound Link คือ hyperlinks ที่ลิงค์จากเว็บไซต์ของเราไปยังเว็บไซต์อื่น โดยสามารถลิงก์จากคำ วลี รูปภาพ หรือ icon ก็ได้
ตาม Google Algorithm แต่ละหน้าเพจของเว็บไซต์ควรมี External Link เชื่อมไปยังเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา Relevant กับหน้าเพจนั้น ๆ และที่สำคัญควรเป็นเว็บที่มีคะแนนความน่าเชื่อถือมากกว่าเว็บไซต์ของเรา
ตัวอย่าง Code ของ External Link เครื่องมือวัดค่าการเกษตร
CTR
CTR หรืออัตราการคลิก ย่อมาจากคำว่า Click Through Rate ซึ่งหมายถึงอัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น โดยมีสูตรในการคำนวนดังต่อไปนี้
CTR (%) = Click / Impression x 100
อัตราการคลิก เป็นตัวชี้วัดว่า Snippet (Title + Description ที่แสดงบน SERP) ไม่ว่าจะมาจากการทำ SEO หรือการยิง Google Ad มีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน โดยเทียบกับจำนวนการแสดงผล หรือการมองเห็น
ในการอ่านค่า CTR ยิ่งสูง ยิ่งดี เพราะหมายถึงมีคนสนใจคลิกโฆษณา หรือเว็บไซต์ของเรามาก โอกาสที่จะเกิด Conversion ย่อมมีมากตามไปด้วย
Keywords
Keywords หรือคีย์เวิร์ด คือคำหรือวลีสำคัญที่นักการตลาดคาดการณ์ว่าผู้ใช้ (หรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย) จะใช้คำ หรือวลีดังกล่าวในการค้นหาผ่าน Google Search Engine ส่วนคำ หรือวลีที่ผู้ใช้พิมพ์ค้นหาใน Google Search Box จะเรียกว่า Query
ในการทำ Search Marketing หน้าที่ที่สำคัญของนักการตลาด คือ ต้องวิเคราะห์ ค้นหา และเลือกใช้ "คีย์เวิร์ด" ให้ตรงหรือใกล้เคียงกับ Query มากที่สุด
หากทำได้ โอกาสในทำ Search Marketing ทั้งรูปแบบ SEO และ Google Ad ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง
Meta Description
คือคำอธิบายเนื้อหาของหน้าเว็บเพจแต่ละหน้าโดยย่อ (ประมาณ 160 ตัวอักษร) เพื่อให้ให้ผู้อ่านเข้าใจถึงเนื้อหาภายในเว็บไซต์ และใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ ในการเข้าชมเว็บไซต์ในแต่ละครั้ง
Meta Description เป็น 1 ใน 3 องค์ประกอบรวมกับ Title Tag และ URL ที่ Google นำไปแสดงผลบน Search Engine Result Page (SERP) หรือหน้าแสดงผลการค้นหา Meta Decription จึงมีผลต่อ SEO Score รวมไปถึง Click Through Rate (CTR) ไม่น้อย
ดังนั้นหากเราต้องการให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับต้น ๆ บน Google และมี Traffic เยอะ ๆ เราต้องให้ความสำคัญกับ Meta Description ไม่น้อยไปกว่า SEO Title Tag
Query
Query หรือ Search Term ใน Google Ad คือคำหรือวลีที่ผู้ใช้ หรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใช้ค้นหาผ่าน Google Search Box Query ซึ่งแต่ละคำที่ลูกค้าเลือกใช้จะแฝง Search Intent มาด้วยเสมอ
Query ไม่ใช่ Keywords เพราะ Query เกิดขึ้นจากมุมของผู้ใช้ ขณะที่ Keyword เกิดขึ้นจากมุมของผู้ขาย (โดยประเมินจาก Query)
ด้วยเหตุนี้ คนที่จะทำ SEO หรือ Google Ad ให้สำเร็จต้องมีความสามารถในการวิเคราะห์ Query ให้ออก ก่อนคัด Query ที่มีศักยภาพทางการตลาดไปสร้าง Keywords เพื่อใช้งานอีกทอดหนึ่ง
Snippet
เรียกเต็ม ๆ ว่า Snippet Preview คือ การแสดงข้อมูลรูปแบบมาตรฐานบนหน้าแสดงผลค้นหาของ Google หรือ Search Engine Result Page (SERP)
Snippet ประกอบด้วยด้วยข้อมูลสำคัญ 3 ส่วน คือ SEO title , Slug และ Meta description
Web Traffic
ปริมาณหรือจำนวนคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา ทั้งการพิมพ์ชื่อเว็บไซต์เข้ามาตรง ๆ หรือผ่านช่องทางอื่น ๆ ไม่จะเป็น Google หรือ Social Media ต่าง ๆ เช่น Youtube, Facebook, Instagam และ Tiktok ดังนั้นยิ่งเรามี Web Traffic มากเท่าไหร่ แสดงว่าเว็บไซต์ของเรามีจำนวน Visitors มากขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ในการทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ เราจำเป็นต้องพิจารณา Web Traffic ทั้งในมิติของปริมาณ และคุณภาพควบคู่กันเสมอ หากปริมาณสูง คนเข้าเว็บเยอะ แต่เป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีศักยภาพ ไม่มีความต้องการ Web Traffic นั้นก็เปล่าประโยชน์
Tag:search marketing, SEO
